วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556



ผักกาดหัว



ฤดูปลูกและการเตรียมดิน
เกษตรกรจะปลูกผักกาดหัวประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อุณหภูมิต่ำเหมาะต่อการปลูกและการเจริญเติบโตของผักกาดหัวได้เป็นอย่างดี โดยเลือกดินร่วนปนทรายเป็นพื้นที่ปลูก
ผักกาดหัวสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินร่วนซุยและเก็บความชื้นได้ดี เกษตรกรทำการไถดะ ตากดินให้แห้งเพื่อทำลายวัชพืชและโรคแมลงต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแล้วไถแปรอีก ๓-๔ ครั้ง คราดอีก ๒ ครั้งเพื่อให้ดินร่วนซุย
พันธุ์และวิธีการปลูก
เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกพันธุ์ที่มีลักษณะหัวเรียวแหลมที่เป็นพันธุ์เบามีอายุประมาณ ๔๕-๔๗ วัน เป็นพันธุ์ที่โรงงานในจังหวัดสุรินทร์ต้องการมีอยู่ ๒ พันธุ์คือ พันธุ์เบาเบอร์ ๑ และพันธุ์หนักเบอร์ ๒
เกษตรกรปลูกโดยไม่ยกร่อง โดยขุดหลุมระยะประมาณ ๒๐x๓๐ ซม.หยอดเมล็ดลงในหลุมๆละ ๔-๕ เมล็ดใช้ดินกลบ เมื่อผักกาดหัวอายุได้ประมาณ ๒๐-๒๕ วัน ทำการถอนแยกเหลือหลุมละ ๒ ต้น ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ประมาณ ๔ ลิตร/ไร่
การใส่ปุ๋ยและปฏิบัติดูแลรักษา
เกษตรกรบางรายใช้ปุ๋ยคอกประมาณ ๖๐๐ กก./ไร่ ใส่ไปพร้อมกับการไถดะ โดยไถกลบลงไปในดินพร้อมกัน ส่วนปุ๋ยเคมีใช้สูตร ๑๖-๑๖-๘ ประมาณ ๒๕ กก./ไร่ โดยหว่านให้ทั่วพื้นที่ปลูกแล้วไถคราดกลบไปพร้อมกันแบบเดียวกับการใส่ปุ๋ยคอก การใส่ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอกจะใส่เพียงครั้งเดียว
การปฏิบัติดูแลรักษาเกษตรกรจะทำการกำจัดวัชพืชเพียงครั้งเดียวในการเตรียมดิน หลังปลูกแล้วไม่มีการกำจัดวัชพืชอีกจนถึงเก็บเกี่ยว การกำจัดแมลงศัตรูพืชใช้สารเมทธิลพาพาไธออน(โฟลิดอล)กำจัดครั้งแรกเมื่อปลูกได้ ๑๕ วัน ครั้งที่ ๒ เมื่อผักกาดหัวอายุได้ประมาณ ๒๕-๓๐ วัน การใช้ฮอร์โมนนั้นเกษตรกรจะใช้ ๒ ครั้ง โดยผสมกับสารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช
การให้น้ำครั้งแรกหลังจากปลูกได้ประมาณ ๒๐-๒๕ วัน ในลักษณะพ่นให้ทั่วแปลงโดยใช้เครื่องสูบน้ำพ่น การให้น้ำช่วงต่อไปห่างกันช่วงละ ๕-๖ วันจนถึงเก็บเกี่ยว ให้น้ำประมาณ ๔ ครั้ง
การเก็บเกี่ยวผลผลิต
ใช้วิธีถอนหรือดึงขึ้น ก่อนเก็บเกี่ยวจะต้องให้น้ำอีกเป็นครั้งสุดท้าย โดยพ่นน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง ทิ้งไว้ประมาณ ๒ วัน ทำให้ถอนหรือเก็บเกี่ยวได้ง่าย ผักกาดหัวไม่หักหรือขาด ทำการเก็บเกี่ยวเมื่ออายุได้ประมาณ ๔๕-๔๗ วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของผักกาดหัว น้ำหนักผลผลิต ผักกาดหัวสดเฉลี่ย ๑,๕๐๐ กก./ไร่ เมื่อนำไปหมักแห้งได้ผลผลิต ๘๕๐ กก./ไร่